วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2560

อนุทินที่ 8

แนวคิดของ SWOT Analysis

SWOT Analysis เป็นการวิเคราะห์สภาพองค์การ หรือหน่วยงานในปัจจุบัน เพื่อค้นหาจุดแข็ง จุดเด่น จุดด้อย หรือสิ่งที่อาจเป็นปัญหาสำคัญในการดำเนินงานสู่สภาพที่ต้องการในอนาคต SWOT เป็นตัวย่อของข้อความที่มีความหมายดังนี้
Strengths              หมายถึง จุดแข็งหรือข้อได้เปรียบ
Weaknesses          หมายถึง จุดอ่อนหรือข้อเสียเปรียบ
Opportunities       หมายถึง โอกาสที่จะดำเนินการได้
Threats                  หมายถึง อุปสรรค ข้อจำกัดหรือปัจจัยที่คุกคามการดำเนินงานขององค์การ


หลักการสำคัญของ SWOT
หลักการสำคัญของ SWOT  ก็คือการวิเคราะห์โดยการสำรวจสภาพแวดล้อม 2 ด้าน ได้แก่สภาพแวดล้อมภายในและสภาพแวดล้อมภายนอก ซึ่งเป็นการวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน เพื่อให้รู้ตนเอง (รู้เรา) รู้จักสภาพแวดล้อม (รู้เขา) ชัดเจน และวิเคราะห์โอกาส-อุปสรรค  การวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ทั้งภายนอกและภายในองค์กร ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารขององค์กรทราบถึงการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายนอกองค์กร ทั้งสิ่งที่ได้เกิดขึ้นแล้วและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในอนาคต รวมทั้งผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ที่จะมีผลต่อองค์กร และจุดแข็ง จุดอ่อน และความสามารถด้านต่าง ๆ ที่องค์กรมีอยู่ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการกำหนดวิสัยทัศน์ การกำหนดกลยุทธ์และกิจกรรมดำเนินการขององค์กรที่เหมาะสมต่อไป

ประโยชน์ของการวิเคราะห์ SWOT
ประโยชน์ของการวิเคราะห์ SWOT การวิเคราะห์ SWOT เป็นการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งภายนอกและภายในองค์กร ซึ่งปัจจัยเหล่านี้แต่ละอย่างจะช่วยให้เข้าใจได้ว่ามีอิทธิพลต่อผลการดำเนินงานขององค์กรอย่างไร จุดแข็งขององค์กรจะเป็นความสามารถภายในที่ถูกใช้ประโยชน์เพื่อการบรรลุเป้าหมาย ในขณะที่จุดอ่อนขององค์กรจะเป็นคุณลักษณะภายในที่อาจจะทำลายผลการดำเนินงาน โอกาสทางสภาพแวดล้อมจะเป็นสถานการณ์ที่ให้โอกาสเพื่อการบรรลุเป้าหมายองค์กรในทางกลับกันอุปสรรคทางสภาพแวดล้อมจะเป็นสถานการณ์ที่ขัดขวางการบรรลุเป้าหมายขององค์กร  ผลจากการวิเคราะห์  SWOT  นี้จะใช้เป็นแนวทางในการกำหนดวิสัยทัศน์ การกำหนดกลยุทธ์ เพื่อให้องค์กรเกิดการพัฒนาไปในทางที่เหมาะสม

ขั้นตอนวิธีการดำเนินการทำ SWOT Analysis
1.             การประเมินสภาพแวดล้อมภายในองค์กร
2.             การประเมินสภาพแวดล้อมภายนอก
-                   สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจทั้งในและระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับการดำเนินงานขององค์กร
-                   สภาพแวดล้อมทางสังคม
-                   สภาพแวดล้อมทางการเมือง
-                   สภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยี
-                   สถานะสุขภาพ
-                   สภาพแวดล้อมทางสิ่งแวดล้อม
-                   โอกาสทางสภาพแวดล้อม
-                   อุปสรรคทางสภาพแวดล้อม
3.             ระบุสถานการณ์จากการประเมินสภาพแวดล้อมเมื่อได้ข้อมูลเกี่ยวกับ จุดแข็ง-จุดอ่อน โอกาส-อุปสรรค
4.             ข้อพิจารณาในการวิเคราะห์ SWOT มีดังนี้   
-                   ควรวิเคราะห์แยกแยะควรทำอย่างลึกซึ้ง
-                   การกำหนดปัจจัยต่าง ๆ ไม่ควรกำหนดของเขตของความหมายของปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น จุดอ่อน (W) หรือ จุดแข็ง (S) หรือ โอกาส (O) หรือ อุปสรรค (T) ให้มีความหมายคาบเกี่ยวกัน

การศึกษาสถานภาพสถานศึกษา
การศึกษาสถานภาพเป็นการ ศึกษาวิเคราะห์ ถึง ปัจจัย ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งนั้นๆเพื่อเป็นเครื่องมือ ในการประเมินสภาพว่าเป็นอย่างไรและควรพัฒนาไปในทิศทางใด หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าเป็นการ สำรวจหาขีดความสามารถเพื่อใช้ในการวางแผน  สำหรับขั้นตอนการศึกษาสถานภาพ มีดังนี้
1.             วิเคราะห์ภารกิจและผลผลิตหลัก
2.             วิเคราะห์สภาพแวดล้อม(ภายใน,ภายนอก)
3.             ประเมินสถานภาพสถานศึกษา
4.             ทิศทางของสถานศึกษา
5.             กำหนดกลยุทธ์

1.             การวิเคราะห์ภารกิจและผลผลิตหลัก
ภารกิจของสถานศึกษา (Assigned mission)  คือ  จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ประชาชนได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ  ผู้ที่สำเร็จการศึกษาเป็นคนดี  คนเก่ง  และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สถานศึกษาต้องตระหนักในภารกิจหลักโดยมุ่งกำหนดเป้าหมาย  วางแผน  และดำเนินการสู่ความสำเร็จ  ซึ่งการกำหนดเป้าหมายและกิจกรรมดำเนินงานต้องคำนึงถึงกฎหมาย  นโยบาย  และความคาดหวังของผู้ที่เกี่ยวข้อง  เพื่อใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ของสถานศึกษา
ผลผลิตหลัก (Outputs)  คือ  สิ่งของหรือบริการที่เป็นรูปธรรมหรือรับรู้ได้ที่จัดทำโดยหน่วยงานของรัฐเพื่อให้บุคคลภายนอกได้ใช้ประโยชน์ ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่รัฐบาลคาดหวังตามนโยบายของรัฐ  ซึ่งกำหนดมาจากความต้องการของประชาชนและสังคม สำหรับผลผลิตหลักของสถานศึกษาของสำนักงานพื้นที่การศึกษา คือการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้กับเด็กในวัยเรียน  ประกอบด้วย  ผู้จบการศึกษาก่อนประถมศึกษา  ผู้จบการศึกษาภาคบังคับ  ผู้จบการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย  เด็กพิการได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานและพัฒนาสมรรถภาพ  และเด็กด้อยโอกาสได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ซึ่งจะเห็นว่าเด็กในวัยเรียนเป็นกลุ่มเป้าหมายของผลผลิตหลักและตัวชี้วัดความสำเร็จของการจัดการศึกษา              
2.             การวิเคราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT Analysis)
การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมเป็นการวิเคราะห์สภาพองค์การ หรือหน่วยงานในปัจจุบัน เพื่อค้นหาจุดแข็ง จุดจุดอ่อน โอกาส อุปสรรค หรือสิ่งที่อาจเป็นปัญหาสำคัญในการดำเนินงานสู่สภาพที่ต้องการในอนาคต SWOT  เป็นตัวย่อที่มีความหมายดังนี้
S    ย่อมาจาก  Strengths        หมายถึงจุดแข็ง  (ข้อได้เปรียบ)
W   ย่อมาจาก  Weaknesses    หมายถึงจุดอ่อน (ข้อเสียเปรียบ)
O   ย่อมาจาก  Opportunities   หมายถึงโอกาส(ปัจจัยที่จะส่งผลให้สามารถดำเนินการได้)
T   ย่อมาจาก  Threats            หมายถึงอุปสรรค  (ปัจจัยที่คุกคามการดำเนินงาน)

3.             การประเมินสถานภาพ
การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกสถานศึกษาทางการศึกษา เพื่อศึกษาแนวโน้มการพัฒนาการศึกษาให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนท้องถิ่น โดยแนวโน้มการพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษาทางการศึกษาต้องมีความเป็นไปได้ในการพัฒนาตามเงื่อนไขข้อจำกัดและองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อการจัดการศึกษา ซึ่งได้แก่ นโยบายในการจัดการศึกษาของหน่วยงานต้นสังกัด รูปแบบการบริหารงานของสถานศึกษาทางการศึกษา และปัจจัยทีเกี่ยวข้องอื่น การศึกษาความต้องการของชุมชน เป็นการสำรวจความต้องการของสถานศึกษาชุมชนที่สถานศึกษาทางการศึกษาตั้งอยู่ความต้องการของผู้ปกครองนักเรียนและความต้องการของชาวบ้านในชุมชนสรุปมาเป็นแนวทางในการดำเนินงานเพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชนการวิเคราะห์สภาพของสถานศึกษาทางการศึกษาเพื่อกำหนดแนวทางในการพัฒนาการศึกษา ดังนั้นการประเมินสถานภาพสถานศึกษาจะทำให้เราทราบว่าปัจจุบันสถานศึกษาเป็นอย่างไร  มีปัจจัยจากสภาพแวดล้อมภายนอกที่เป็นโอกาส  และอุปสรรค  มีปัจจัยจากสภาพแวดล้อมภายในที่เป็นจุดแข็งและจุดอ่อนในด้านใด  เพื่อที่จะเป็นข้อมูลในการจัดวางทิศทางสถานศึกษา  ในการประเมินจะใช้กระบวนการทางสถิติเป็นเครื่องมือในการประเมินและนำเสนอการประเมินสภาพสถานศึกษา เป็นการเลือกวิธีการทำงานอย่างมี  ทิศทางที่เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของสถานศึกษาเพื่อให้สามารถดำเนินการได้ประสบผลสำเร็จสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง
1.             โครงสร้างของสถานศึกษา (Structure)
2.             ระบบบริการ(Services)
3.             บุคลากร(Man)
4.             การเงิน(Money)
5.             วัสดุและอุปกรณ์(Materiall)
4.             กำหนดทิศทาง
โดยทั่วไปจะมี 4 ลักษณะ คือ
1.  เอื้อและแข็ง คือ ปัจจัยภายในมีความเข้มแข็ง และปัจจัยภายนอกสร้างโอกาส เอื้อต่อการดำเนินการ
2.  เอื้อแต่อ่อน คือ ปัจจัยภายในมีความอ่อนแอ แต่ปัจจัยภายนอกสร้างโอกาส เอื้อต่อการดำเนินการ
3. ไม่เอื้อแต่แข็ง คือ ปัจจัยภายในมีความเข้มแข็ง แต่ปัจจัยภายนอกไม่สร้างโอกาส เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการ
4.ไม่เอื้อและอ่อน คือปัจจัยภายในมีความอ่อนแอ และปัจจัยภายนอกไม่สร้างโอกาส เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการ
5.             กำหนดกลยุทธ์
โดยทั่วไปจะมี 4 ประเภท คือ
1. กลยุทธ์สร้างการเจริญเติบโต เป็นกลยุทธ์ที่เอื้อและแข็ง โดยขยาย กิจการหรือดำเนินงานเพิ่มเติมขึ้น
2. กลยุทธ์ความถนัด เป็นกลยุทธ์ที่เอื้อแต่อ่อน โดยเลือกดำเนินงานเฉพาะที่มีความรู้ความชำนาญ
3. กลยุทธ์รักษาเสถียรภาพ เป็นกลยุทธ์ที่ไม่เอื้อแต่แข็ง โดยเลือกดำเนินงานที่กำลังดำเนินงานอยู่ไม่ขยาย
4. กลยุทธ์การตัดทอน เป็นกลยุทธ์ที่ไม่เอื้อและอ่อน โดยการทบทวนภารกิจในส่วนที่ทำประโยชน์ได้


สรุปได้ว่า  การศึกษาสถานภาพสถานศึกษาเป็นการเลือกวิธีการทำงานอย่างมีทิศทางที่เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของสถานศึกษาเพื่อให้สามารถดำเนินการได้ประสบผลสำเร็จสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง การกำหนดทิศทางของสถานศึกษาช่วยให้การดำเนินงานของสถานศึกษามีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งสถานศึกษาต้องรู้สถานภาพของตนเองก่อนว่าอยู่ในสถานภาพที่ต้องปรับขยาย แก้ไข หรือพัฒนาอะไรบ้าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น